• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;Ea&quot;RT&quot;h, post: 885983, member: 8079&quot;]<font size="1"><span style="color: #3366ff">&quot; หัวเทียน &quot; </span><span style="color: #ff0000">นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบเชื้อเพลิงเบนซิน ซึ่งการเลือกใช้หัวเทียนในเครื่องยนต์ทั่วๆ ไปส่วนใหญ่เราจะดูจากทางคู่มือประจำรถนั้นๆ จะเห็นได้ว่าทางผู้ผลิตจะบอกรุ่นของหัวเทียนที่มีความเหมาะสมกับเครื่องยนต์ มาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าเป็นเครื่องยนต์ที่ทำการ Modify กันล่ะครับ ส่วนใหญ่เราจะนึกถึงกันแค่เบอร์ของหัวเทียนว่า เป็นหัวเทียนแบบร้อนหรือเย็น แล้วก็เลือกใช้กันตามแบบที่คิดว่าน่าจะเหมาะสมกับการ Modifyขุมพลังที่ทำกันขึ้นมาใหม่ แต่มีใครเคยนึกถึงลักษณะของตัวหัวเทียนรุ่นนั้นๆ ที่เราจะนำมาใช้กับขุมพลังหรือไม่ ว่าเขาออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์อะไร โดยหัวเทียนส่วนใหญ่ที่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเราเช่น HKS หรือ DENSO ทางบริษัทเหล่านี้จะมีข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อผู้ซื้ออยู่แล้ว ว่าควรใช้แบบไหนหรือเบอร์อะไร แต่สำหรับหัวเทียนยอดฮิตอย่าง NGK ที่เห็นๆกันอยู่มาตั้งนานนม แต่ไม่มีใครให้ข้อมูลกันอย่างถูกต้องกันซะทีเดียว เด๋วผมจะอธิบายลักษณะ และแบบของหัวเทียนก่อนแล้วกัน </span></font></p><p><font size="1"><br /></font></p><p><font size="1"><span style="color: #3366ff">อันดับแรก............</span></font></p><p><font size="1"><span style="color: #ff0000">ผมจะกล่าวถึงหัวเทียนส่วนที่เป็นเซรามิคก่อนนะครับ ทาง NGK ได้แบ่งแบบและขนาดความสูง ใหญ่ - เล็ก ของตัวเซรามิคกันถึง 16 แบบ เพื่อให้เหมาะสมกับสายหัวเทียนของรถรุ่นต่างๆ เพราะเครื่องยนต์ของแต่ละบริษัทฯ จะออกแบบขนาดความยาวของสายหัวเทียนมาไม่เท่ากัน ตรงจุดนี้หลายท่านเคยเจอปัญหาสายหัวเทียนเด้งขึ้นมาเองขณะวิ่งอยู่ แล้วเกิดอาการวิ่งสะดุด แล้วพอลงมากดที่สายหัวเทียนลงไปใหม่ให้แน่นก็หาย หรือปัญหาสายหัวเทียนกดไม่สุดบ้างหรือเปล่าครับ สาเหตุ...ก็มาจากการเลือกขนาดความสูงของตัวเซรามิคผิด spec และอีกส่วนที่สำคัญคือเรื่องของเกลียวด้านล่างหัวเทียนแต่ละแบบ ก็จะมีความยาวของเกลียวไม่เท่ากันตรงนี้ต้องระวังให้มาก เพราะถ้าความยาวเกินไป คงนึกภาพออกใช่ไม๊ครับว่าส่วนปลายของหัวเทียนต้องเผชิญหน้ากันอย่างใกล้ชิดแน่ๆ กับลูกสูบ และทำให้ความร้อนขึ้นมาสะสมที่หัวเทียนมีมากขึ้น และอาการเขี้ยวแตก หรือหัวเทียนละลายก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ </span></font></p><p><font size="1"><br /></font></p><p><font size="1"><span style="color: #3366ff">อันดับสอง.........</span></font></p><p><font size="1"><span style="color: #ff0000">เรื่องรูปแบบเขี้ยวหัวเทียน โดยทาง NGK แบ่งรูปแบบของเขี้ยวหัวเทียนออกเป็น 12 แบบ สมาชิกส่วนใหญ่ก็คงจะพอทราบกันมาบ้างแล้วตรงจุดนี้ ที่กล่าวมานี้ผมอยากให้ดูถึงความเหมาะสมของเขี้ยวหัวเทียนกับเครื่องยนต์ของเรา ไม่ใช่มีคนมาอวดสรรพคุณ ว่าเอ๊ะ คุณต้องใช้เขี้ยวหัวเทียนอย่างนี้นะ ผมลองใช้มาแล้ว โอ้โฮ...มันแรงขึ้นอย่างรู้สึกได้เลย ผมว่านะม้ามันต้องลุกขึ้นมาช่วยกันวิ่งอีกไม่น้อยกว่า 5 ตัวแน่ๆเลย คุณลองซื้อไปใส่ดูได้เลย เนี่ยครับ!!! เท่าที่ทราบมักจะออกมาเป็นรูปแบบคล้ายๆ กันอย่างเนี๊ย...คือคำบอกเล่า ผมอยากให้มองถึงความต่ำ หรือสูงของเขี้ยวหัวเทียนว่าแต่ละแบบเขาดีไซน์ลักษณะออกมาให้ใช้งานกันแบบไหนลองสังเกตุดูกันนะครับว่าถ้าเป็นหัวเทียนของเครื่อง N/A ทั้งหลายลักษณะของเข้ยวจะออกแบบมาให้ต่ำลง เหมือนปกติทั่วไปส่วนจะมีเขี้ยวเป็นแบบเข็มหรือเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึง อย่างเช่นในหัวเทียนเบอร์ R7112 ที่มีเขี้ยวแบบตัว i ถ้าเป็นของ 4G63T หัวเทียนแต่งที่เหมาะสมควรมีรูปแบบเขี้ยวที่ไม่ยื่นต่ำลงมา เหมือนพวกเครื่อง N/A อย่างเช่นเบอร์ R6385_P ซึ่งมีเขี้ยวแบบ F ก็คงเป็นตัวอย่างให้เห็นกันได้อย่างชัดเจนสำหรับรูปแบบของเขี้ยวหัวเทียนที่ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกันเนื่องจากจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันแล้วอย่างนี้ การเลือกใช้หัวเทียน จะใช้แบบมั่วๆ ได้อย่างไรล่ะครับ </span></font></p><p><font size="1"></font>[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X