Log in or Sign up
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
Community Car Clubs
>
Euro Car Clubs
>
Rover Club
>
ไดเออร์ ตัน
>
Reply to Thread
Name:
Verification:
Please enable JavaScript to continue.
Loading...
Message:
<p>[QUOTE="623 จีเอส ไอ, post: 1578405"]<b>ระบบแอร์</b></p><p><br /></p><p>การทำงานของระบบปรับอากาศรถยนต์ </p><p><br /></p><p>1.คอมเพรสเซอร์( Compressor) ทำหน้าที่ดูดสารทำความเย็นที่เข้ามาทาง ท่อซักชั่น ( Suction line )หรือท่อดูด สารทำความเย็นที่ดูดเข้ามานี้มีสถานะเป็นไอ (ไออิ่มตัว saturated vapor )มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ แล้วอัดออกไปด้วยกำลังของเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ ออกมาทางท่อท่อดิสชาร์จ ( Discharge line )หรือท่อจ่าย สารทำความเย็นที่ถูกอัดออกไปนี้จะมีสถานะเป็นไอ (ไอยิ่งยวด superheated vapor) มีความดันสูงและอุณหภูมิสูง </p><p>2.คอนเดนเซอร์ ( Condenser ) ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น สารทำความเย็นที่ถูกอัดออกมาจาก คอมเพรสเซอร์ เข้ามาทางท่อท่อดิสชาร์จ ( Discharge line )หรือท่อจ่าย มีสถานะเป็นไอ (ไอยิ่งยวด superheated vapor)มีความดันสูงและอุณหภูมิสูง หลังจากระบายความร้อนออกแล้ว สารทำความเย็น จะมีสถานะเป็นของเหลว (ของเหลงอิ่มตัว satured liquid) มีความดันสูงและอุณหภูมิ สูงคอนเดนเซอร์ ( Condenser ) ติดตั้งบริเวณส่วนหน้าของรถหน้าหม้อน้ำรถยนต์ มีพัดลมทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อน </p><p>3.ดรายเออร์และรีซีฟเวอร์ ( Drier & receiver) สารทำความเย็นที่ออกจาก คอนเดนเซอร์ จะถูกส่งมาที่ ดรายเออร์และรีซีฟเวอร์ เพื่อทำการกรอง , ดูดความชื้น และพักสารทำความเย็นเพื่อจะส่งต่อไปยัง แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ผ่านทางท่อ ท่อลิควิด ( Liquid line ) </p><p>4.แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ( Expansion valve) ทำหน้าที่ทำหน้าที่ลดความดัน ของสารทำความเย็น และควบคุมสารทำความเย็นที่ฉีดเข้าสู่อีวาโปเรเตอร์ ให้พอเหมาะที่จะกลายเป็นไอในอีวาโปเรเตอร์ การฉีดนั้นเช่นเดียวกับการฉีดน้ำทางท่อยางที่บีบปลายท่อใว้ สารทำความเย็นจะถูกฉีดเข้าไปเป็นฝอย จะมีสถานะเป็นไอเปียก มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ เข้าสู่ อีวาโปเรเตอร์ </p><p>5.อีวาโปเรเตอร์ ( Evaporator ) รับสารทำความเย็นที่ฉีดออกมาจาก แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ซึ่ง มีลักษณะเป็นฝอย มีสถานะเป็นไอเปียก มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากคุณสมบัติของสารทำความเย็นที่มีจุดเดือดที่อุณหภูมิต่ำ ที่อีวาโปเรเตอร์นี้เองที่สารทำความเย็นจะดูดความร้อนเข้าสู่ตัวเองแล้วกลาย เป็นไอ (ไออิ่มตัว มีความดันต่ำ และอุณหภูมิต่ำ ) ออกจาก อีวาโปเรเตอร์แล้วถูกดูดเข้าสู่ คอมเพรสเซอร์ เมื่อความร้อนของอากาศโดยรอบอีวาโปเรเตอร์ถูกดูดออกไป ที่เหลือก็คืออากาศเย็น ที่พัดออกมาทางช่องลมเย็นนั้นเอง</p><p>.......</p><p>อาการสำคัญอันแรกของการเสียในระบบแอร์คือ มันไม่เย็น อาการไม่เย็นนี้จะแยกได้เป็นหลายลักษณะดังนี้ </p><p>1.ไม่เย็นเลย 2. เย็นน้อย 3.เย็นแป๊บเดียวก็ร้อน </p><p>อาการที่หนึ่งนั้น สาเหตุใหญ่มาจากน้ำยาแอร์ไม่พอ ท่านจะสำรวจได้โดยมองที่กระจกช่องมองของดรายเออร์ </p><p>ถ้าน้ำยาแอร์น้อยมันจะมีฟองจำนวนมากวิ่งผ่านกระจกให้เห็นชัดเจน กรณีที่มองแล้วไม่มีฟองสักเม็ดผ่าน </p><p>ทั้งที่ไม่ได้เติมน้ำยาแอร์มานานแล้ว พึงสันนิษฐานได้ว่าไม่มีน้ำยาในระบบ เนื่องจากรั่วไปหมดแล้ว </p><p>เพราะเนื่องจากถ้ามีน้ำยาอยู่มันก็ต้องมีฟองผ่านไปบ้างพอสมควร ช่างแอร์เขาจะไม่เติมน้ำยาแอร์จนเต็มถึงขนาด </p><p>ไม่มีฟองเหลือในระบบ และน้ำยาแอร์นี้จะรั่วออกไปได้เสมอๆ ดังนั้นมันต้องมีฟองอยู่บ้างเมื่อท่านมองครับ </p><p>ถ้าเห็นฟองมากมายก็ไปเติมน้ำยาแอร์ซะ แอร์มันจะเย็นขึ้นมาเอง แต่ถ้าเติมแล้วไม่กี่วันเป็นอีก นี่ก็ต้องมีอะไรรั่ว </p><p>แน่นอน ต้องให้ช่างแอร์เขาไล่หาที่รั่ว โดยมากการรั่วมักจะรั่วในด้านความดันสูง เพราะแรงดันน้ำยาแอร์ครับ </p><p>ดังนั้นจุดรั่วจะมีคราบน้ำมันคอมเพรสเซอร์ เป็นคราบเหมือนน้ำมันเครื่องเหนียวๆซึมออกมาประจานตามรอยต่อ </p><p>ที่รั่ว ต้องซ่อมที่จุดรั่วก่อนจึ่งจะแก้ไขส่วนอื่นต่อไป </p><p>สาเหตุที่สองนั้นคือคอล์ยเย็นตัน อันเนื่องมาจากมีความชื้นในระบบแอร์ อันนี้เกิดจากรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ไม่สามารถ </p><p>ดูดความชื้นไว้ได้ ความชื้นในระบบแอร์จะมากลายเป็นน้ำแข็งในคอล์ยเย็น อุดตันไม่ให้น้ำยาไหลสะดวก อาการนี้ </p><p>บางครั้งจะเห็นลมเย็นที่พุ่งออกมาจากช่องลมแอร์เป็นควันขาว อาการนี้ต้องเปลี่ยรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ และแว็คคั่ม </p><p>หรือทำสูญญากาศในวงจรแอร์ก่อนเติมน้ำยาใหม่ครับ </p><p>อาการที่สองคือเย็นน้อย อาการนี้สาเหตุแรกมาจากน้ำยาไม่พอ ก็ต้องเติมครับ สาเหตุต่อไปก็คอล์เย็นตันสกปรก </p><p>อันนี้จะประกอบกับลมแอร์พัดเบาลง ทั้งที่มอร์เตอร์ก็หมุนดี อันนี้ต้องล้างตู้แอร์ ซึ่งปัจจุบัญสามารถล้างได้โดยไม่ต้องถอดตู้ </p><p>แต่ถ้าถอดตู้ล้างจะสะอาดกว่าแต่ต้องเปลี่ยนรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ใหม่ด้วยครับสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนก็ว่ามาแล้ว </p><p>สาเหตุต่อไปก็คือระบายความร้อนไม่ดี อันนี้เกิดจากคอล์ยร้อนและพัดลมแอร์ สาเหตุนี้แมงหวี่เป็นกันได้มาก </p><p>คอล์ยร้อนอาจสกปรกมีฝุ่นผงเศษถุงพลาสติกใบไม้แมลงสารพัดไปจุกตามครีบระบายความร้อน ก็ทำความสะอาดซะ </p><p>ครีบเกบุบบู้บี้ เอาไม้เสียบลูกชิ้นค่อยๆบรรจงแซะจัดระเบียบสังคมมันใหม่ อย่าเอาไขควงเอาเหล็กไปทำนะครับ </p><p>หนักมือไปมันทะลุล่ะก็เรื่องใหญ่ ไม้เสียบลูกชิ้นนี้ดีที่สุด ถัดมาก็พัดลมแอร์ไม่หมุนหรือหมุนช้าลง อันนี้ต้องอาศัยฟังเสียง </p><p>ปกติมันเคยดังหึ่งๆ ต่อมาดังแหงวๆ ก็มีแปรงถ่านหมดมีอะไรเข้าไปขัด เศษผงในพัดลม ต้องถอดออกมาวิเคราะห์กัน </p><p>เรื่องพัดลมแอร์นี่มีเคล็ดอันหนึ่งต้องรีบเล่าไว้ก่อนที่จะลืม (คนแก่ขี้ลืม) ท่านเคยสังเกตุไหมว่าพัดลมแอร์นั้นมันจะหมุน </p><p>ตามคอมเพรสเซอร์ทำงาน ลองจอดรถติดเครื่องเปิดแอร์ดูนะครับ เวลาคอมเพรสเซอร์ทำงาน พัดลมมันก็จะหมุน </p><p>พอคอมเพรสเซอร์ตัด พัดลมก็หยุดหมุน วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้แมงหวี่ของท่านเย็นขึ้นก็คือ แก้ไขการหมุนของพัดลมแอร์ซะใหม่ </p><p>โดยต่อสายของมันกับวงจรสวิทช์กุญแจ กล่าวคือเมื่อเครื่องยนต์ทำงานพัดลมแอร์จะต้องทำงานด้วย ไม่ว่าท่านจะปิดแอร์ </p><p>หรือไม่ก็ตาม สาเหตุหรือครับ ก็เมื่อท่านไม่เปิดแอร์ ลมจากพัดลมนี้จะไปช่วยไล่ความร้อนออกจากหม้อน้ำ และถ้าท่านเปิดแอร์ </p><p>เวลา คอมเพรสเซอร์มันตัดแล้ว ใช่ว่าคอล์ยร้อนมันจะเย็นลงเลยเมื่อไหร่ มันก็ยังคงร้อนค้างคาอยู่ ก็ให้พัดลมแอร์มันไล่ความร้อนไปเรื่อยๆ </p><p>ถ้าคอล์ยร้อนเย็นลงแล้วลมนั้นก็ยังไปช่วยหม้อน้ำต่ออีก อันนี้หน้าร้อนจะช่วยท่านได้มากครับ สาเหตุที่สามของการเย็นน้อย </p><p>คือเอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลเสียซึ่งจะสัมพันธ์กับอาการที่สามต่อไปนี้ </p><p>อาการที่สามคือเย็นแป๊บเดียวแล้วร้อน ต้องปิดแอร์สักพักเปิดใหม่เย็นแป๊บเดียวอีก อาการนี้เริ่มต้นของอาการเอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลเสีย </p><p>ช่าง เรียกวาว์ลแตก ถ้าทนทู่ซี้ใช้ต่อไป มันจะแตกบริสุทธิ์แล้วไม่เย็นเลยกลายเป็นอาการที่หนึ่ง สาเหตุที่วาว์ลมันแตกนี้โดยมากมาจากความชื้น </p><p>ไม่ว่าท่านจะแว็คคั่มไล่ความชื้นในระบบแอร์และมีดรายเออร์ดักไว้แล้ว แต่ระบบแอร์มันมากด้วยข้อต่อครับ โดยเฉพาะทางด้านความดันต่ำ </p><p>เวลาคอมเพรสเซอร์ดูดไอน้ำยามาอัด ถ้าข้อต่อในด้านความดันต่ำรั่ว มันจะดูดอากาศภายนอกให้ซึมเข้ามาในระบบ พอดรายเออร์ดูด </p><p>ความชื้นจนเสื่อมสภาพ ความชื้นก็จะเพ่นพ่านในระบบ และไปกลายเป็นน้ำแข็งอุดตันที่เอ็กซแพนชั่นวาว์ลหรือคอล์ยเย็น </p><p>เมื่อไปตันที่เอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลมันจะขยายตัวตามประสาน้ำแข็ง ดันช่องเล็กๆของวาว์ลให้ขยายถ่างโตขึ้น ช่างเรียกว่าแตกครับ </p><p>ลองนึกถึงรูที่กระป๋องสีเสปร์ย เวลาท่านฉีดพ่นมัน ถ้าสีมาอุดตันก็จะทำให้พ่นไม่ออก ถ้าท่านไปทะลวงรูให้มันบานมันก็จะไม่พุ่ง </p><p>แต่จะทะลักหยดแหมะๆออกมา วาว์ลแอร์ก็เหมือนกัน เมื่อมันแตกแล้วก็เสียครับต้องเปลี่ยน และอาการนี้ช่างมักต้มท่านว่าคอมเพรสเซอร์พัง </p><p>ระวังให้ดีนะครับ เปลี่ยนวาว์ล+ดรายเออร์+แว็คคั่ม+เติมน้ำยา ไม่ควรจะเกินพันห้า เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ ห้าพันขึ้นนะครับ </p><p>ถ้าวาว์ลแตกก็เอาอันใหม่ใส่เข้าไป เปลี่ยนดรายเออร์ แว็คคั่มระบบ (ทำให้ในระบบแอร์เป็นสูญญากาศ) และเติมน้ำยาใหม่ </p><p>แอร์ก็จะกลับเย็นขึ้นมาได้ครับ </p><p>อาการสัพเพเหระยังมีอีก เช่นคลัชแอร์เสีย มันไม่ตัดไม่ต่อคอมเพรสเซอร์ อันนี้สังเกตุง่าย เสียงป๊อกแป็กเวลาคอมมันตัดต่อจะหายไป </p><p>มอง คอมเพรสเซอร์ก็รู้ เพราะถ้ามันหมุนด้านหน้าคลัชจะหมุน ถ้าคลัชไม่ต่อด้านหน้าจะหยุดนิ่งๆ เรื่องคลัชเสียนี้ก่อนอื่นดูรีเลย์คลัชก่อนครับ </p><p>บางทีคลัชดีรีเลย์เสียก็มี ไม่ต่อไฟไปให้ รีเลย์คลัชก็อยู่แถวๆตัวรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ครับ ในฝากระโปรงโดยมากด้านคนนั่ง </p><p>อาการสายพานแอร์หย่อนลื่น อันนี้มีมากเหมือนกัน สายพานมันยืดหย่อนคอมเพรสเซอร์ก็หมุนไม่เต็มที่มีลื่นไถล มันหย่อนก็ทำให้มันตึงซะ </p><p>ถ้าร่องสายพานเปื้อนน้ำมันจาระบีก็ทำความสะอาดซะ สายพานเก่าแตกก็เปลี่ยนซะ </p><p>อาการลมไม่แรง อันนี้เป็นในรถที่คอล์ยเย็น ลมพัดออกมาไม่แรง อย่าพึ่งไปนึกว่ามันตันอย่างเดียว มีอาการตลกๆอีกอย่างหนึ่ง </p><p>คือน้ำท่วมในคอล์ยเย็น เนื่องมาจากท่อระบายน้ำตัน ปกติท่านจอดรถจะเห็นน้ำแอร์หยดออกมา นั่นมันมาจากคอล์เย็นครับ </p><p>มันควบแน่นน้ำในอากาศไว้ในตัว มีท่อระบายออกทิ้ง บางทีฝุ่นผงไปอุดตันท่อนี้ น้ำก็ไปท่วมอยู่ในคอล์ยเย็น ลมมันหมุนวน </p><p>ในคอล์ยเย็นไม่ได้ลมอั้น ผลคือลมไม่แรงทำให้นึกว่ามันตันซะแล้ว ดังนั้นหมั่นสังเกตุน้ำแอร์ที่หยดออกมาบ้าง ถ้าหายไปก็ </p><p>ทะลวงท่อมันซะบ้างครับ </p><p><br /></p><p><br /></p><p>.......</p><p>..ถอดตัวอย่างไปหาซื้อที่คลองถมตามร้านขายแอร์รถใหม่ๆตัวละอย่างต่ำๆ100บาทเองแล้วแต่รุ่น...[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="623 จีเอส ไอ, post: 1578405"][b]ระบบแอร์[/b] การทำงานของระบบปรับอากาศรถยนต์ 1.คอมเพรสเซอร์( Compressor) ทำหน้าที่ดูดสารทำความเย็นที่เข้ามาทาง ท่อซักชั่น ( Suction line )หรือท่อดูด สารทำความเย็นที่ดูดเข้ามานี้มีสถานะเป็นไอ (ไออิ่มตัว saturated vapor )มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ แล้วอัดออกไปด้วยกำลังของเครื่องยนต์ หรือมอเตอร์ ออกมาทางท่อท่อดิสชาร์จ ( Discharge line )หรือท่อจ่าย สารทำความเย็นที่ถูกอัดออกไปนี้จะมีสถานะเป็นไอ (ไอยิ่งยวด superheated vapor) มีความดันสูงและอุณหภูมิสูง 2.คอนเดนเซอร์ ( Condenser ) ทำหน้าที่ระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็น สารทำความเย็นที่ถูกอัดออกมาจาก คอมเพรสเซอร์ เข้ามาทางท่อท่อดิสชาร์จ ( Discharge line )หรือท่อจ่าย มีสถานะเป็นไอ (ไอยิ่งยวด superheated vapor)มีความดันสูงและอุณหภูมิสูง หลังจากระบายความร้อนออกแล้ว สารทำความเย็น จะมีสถานะเป็นของเหลว (ของเหลงอิ่มตัว satured liquid) มีความดันสูงและอุณหภูมิ สูงคอนเดนเซอร์ ( Condenser ) ติดตั้งบริเวณส่วนหน้าของรถหน้าหม้อน้ำรถยนต์ มีพัดลมทำหน้าที่ช่วยระบายความร้อน 3.ดรายเออร์และรีซีฟเวอร์ ( Drier & receiver) สารทำความเย็นที่ออกจาก คอนเดนเซอร์ จะถูกส่งมาที่ ดรายเออร์และรีซีฟเวอร์ เพื่อทำการกรอง , ดูดความชื้น และพักสารทำความเย็นเพื่อจะส่งต่อไปยัง แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ผ่านทางท่อ ท่อลิควิด ( Liquid line ) 4.แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ( Expansion valve) ทำหน้าที่ทำหน้าที่ลดความดัน ของสารทำความเย็น และควบคุมสารทำความเย็นที่ฉีดเข้าสู่อีวาโปเรเตอร์ ให้พอเหมาะที่จะกลายเป็นไอในอีวาโปเรเตอร์ การฉีดนั้นเช่นเดียวกับการฉีดน้ำทางท่อยางที่บีบปลายท่อใว้ สารทำความเย็นจะถูกฉีดเข้าไปเป็นฝอย จะมีสถานะเป็นไอเปียก มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ เข้าสู่ อีวาโปเรเตอร์ 5.อีวาโปเรเตอร์ ( Evaporator ) รับสารทำความเย็นที่ฉีดออกมาจาก แอ็กซแพนชั้นวาลว์ ซึ่ง มีลักษณะเป็นฝอย มีสถานะเป็นไอเปียก มีความดันต่ำและอุณหภูมิต่ำ เนื่องจากคุณสมบัติของสารทำความเย็นที่มีจุดเดือดที่อุณหภูมิต่ำ ที่อีวาโปเรเตอร์นี้เองที่สารทำความเย็นจะดูดความร้อนเข้าสู่ตัวเองแล้วกลาย เป็นไอ (ไออิ่มตัว มีความดันต่ำ และอุณหภูมิต่ำ ) ออกจาก อีวาโปเรเตอร์แล้วถูกดูดเข้าสู่ คอมเพรสเซอร์ เมื่อความร้อนของอากาศโดยรอบอีวาโปเรเตอร์ถูกดูดออกไป ที่เหลือก็คืออากาศเย็น ที่พัดออกมาทางช่องลมเย็นนั้นเอง ....... อาการสำคัญอันแรกของการเสียในระบบแอร์คือ มันไม่เย็น อาการไม่เย็นนี้จะแยกได้เป็นหลายลักษณะดังนี้ 1.ไม่เย็นเลย 2. เย็นน้อย 3.เย็นแป๊บเดียวก็ร้อน อาการที่หนึ่งนั้น สาเหตุใหญ่มาจากน้ำยาแอร์ไม่พอ ท่านจะสำรวจได้โดยมองที่กระจกช่องมองของดรายเออร์ ถ้าน้ำยาแอร์น้อยมันจะมีฟองจำนวนมากวิ่งผ่านกระจกให้เห็นชัดเจน กรณีที่มองแล้วไม่มีฟองสักเม็ดผ่าน ทั้งที่ไม่ได้เติมน้ำยาแอร์มานานแล้ว พึงสันนิษฐานได้ว่าไม่มีน้ำยาในระบบ เนื่องจากรั่วไปหมดแล้ว เพราะเนื่องจากถ้ามีน้ำยาอยู่มันก็ต้องมีฟองผ่านไปบ้างพอสมควร ช่างแอร์เขาจะไม่เติมน้ำยาแอร์จนเต็มถึงขนาด ไม่มีฟองเหลือในระบบ และน้ำยาแอร์นี้จะรั่วออกไปได้เสมอๆ ดังนั้นมันต้องมีฟองอยู่บ้างเมื่อท่านมองครับ ถ้าเห็นฟองมากมายก็ไปเติมน้ำยาแอร์ซะ แอร์มันจะเย็นขึ้นมาเอง แต่ถ้าเติมแล้วไม่กี่วันเป็นอีก นี่ก็ต้องมีอะไรรั่ว แน่นอน ต้องให้ช่างแอร์เขาไล่หาที่รั่ว โดยมากการรั่วมักจะรั่วในด้านความดันสูง เพราะแรงดันน้ำยาแอร์ครับ ดังนั้นจุดรั่วจะมีคราบน้ำมันคอมเพรสเซอร์ เป็นคราบเหมือนน้ำมันเครื่องเหนียวๆซึมออกมาประจานตามรอยต่อ ที่รั่ว ต้องซ่อมที่จุดรั่วก่อนจึ่งจะแก้ไขส่วนอื่นต่อไป สาเหตุที่สองนั้นคือคอล์ยเย็นตัน อันเนื่องมาจากมีความชื้นในระบบแอร์ อันนี้เกิดจากรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ไม่สามารถ ดูดความชื้นไว้ได้ ความชื้นในระบบแอร์จะมากลายเป็นน้ำแข็งในคอล์ยเย็น อุดตันไม่ให้น้ำยาไหลสะดวก อาการนี้ บางครั้งจะเห็นลมเย็นที่พุ่งออกมาจากช่องลมแอร์เป็นควันขาว อาการนี้ต้องเปลี่ยรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ และแว็คคั่ม หรือทำสูญญากาศในวงจรแอร์ก่อนเติมน้ำยาใหม่ครับ อาการที่สองคือเย็นน้อย อาการนี้สาเหตุแรกมาจากน้ำยาไม่พอ ก็ต้องเติมครับ สาเหตุต่อไปก็คอล์เย็นตันสกปรก อันนี้จะประกอบกับลมแอร์พัดเบาลง ทั้งที่มอร์เตอร์ก็หมุนดี อันนี้ต้องล้างตู้แอร์ ซึ่งปัจจุบัญสามารถล้างได้โดยไม่ต้องถอดตู้ แต่ถ้าถอดตู้ล้างจะสะอาดกว่าแต่ต้องเปลี่ยนรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ใหม่ด้วยครับสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนก็ว่ามาแล้ว สาเหตุต่อไปก็คือระบายความร้อนไม่ดี อันนี้เกิดจากคอล์ยร้อนและพัดลมแอร์ สาเหตุนี้แมงหวี่เป็นกันได้มาก คอล์ยร้อนอาจสกปรกมีฝุ่นผงเศษถุงพลาสติกใบไม้แมลงสารพัดไปจุกตามครีบระบายความร้อน ก็ทำความสะอาดซะ ครีบเกบุบบู้บี้ เอาไม้เสียบลูกชิ้นค่อยๆบรรจงแซะจัดระเบียบสังคมมันใหม่ อย่าเอาไขควงเอาเหล็กไปทำนะครับ หนักมือไปมันทะลุล่ะก็เรื่องใหญ่ ไม้เสียบลูกชิ้นนี้ดีที่สุด ถัดมาก็พัดลมแอร์ไม่หมุนหรือหมุนช้าลง อันนี้ต้องอาศัยฟังเสียง ปกติมันเคยดังหึ่งๆ ต่อมาดังแหงวๆ ก็มีแปรงถ่านหมดมีอะไรเข้าไปขัด เศษผงในพัดลม ต้องถอดออกมาวิเคราะห์กัน เรื่องพัดลมแอร์นี่มีเคล็ดอันหนึ่งต้องรีบเล่าไว้ก่อนที่จะลืม (คนแก่ขี้ลืม) ท่านเคยสังเกตุไหมว่าพัดลมแอร์นั้นมันจะหมุน ตามคอมเพรสเซอร์ทำงาน ลองจอดรถติดเครื่องเปิดแอร์ดูนะครับ เวลาคอมเพรสเซอร์ทำงาน พัดลมมันก็จะหมุน พอคอมเพรสเซอร์ตัด พัดลมก็หยุดหมุน วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้แมงหวี่ของท่านเย็นขึ้นก็คือ แก้ไขการหมุนของพัดลมแอร์ซะใหม่ โดยต่อสายของมันกับวงจรสวิทช์กุญแจ กล่าวคือเมื่อเครื่องยนต์ทำงานพัดลมแอร์จะต้องทำงานด้วย ไม่ว่าท่านจะปิดแอร์ หรือไม่ก็ตาม สาเหตุหรือครับ ก็เมื่อท่านไม่เปิดแอร์ ลมจากพัดลมนี้จะไปช่วยไล่ความร้อนออกจากหม้อน้ำ และถ้าท่านเปิดแอร์ เวลา คอมเพรสเซอร์มันตัดแล้ว ใช่ว่าคอล์ยร้อนมันจะเย็นลงเลยเมื่อไหร่ มันก็ยังคงร้อนค้างคาอยู่ ก็ให้พัดลมแอร์มันไล่ความร้อนไปเรื่อยๆ ถ้าคอล์ยร้อนเย็นลงแล้วลมนั้นก็ยังไปช่วยหม้อน้ำต่ออีก อันนี้หน้าร้อนจะช่วยท่านได้มากครับ สาเหตุที่สามของการเย็นน้อย คือเอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลเสียซึ่งจะสัมพันธ์กับอาการที่สามต่อไปนี้ อาการที่สามคือเย็นแป๊บเดียวแล้วร้อน ต้องปิดแอร์สักพักเปิดใหม่เย็นแป๊บเดียวอีก อาการนี้เริ่มต้นของอาการเอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลเสีย ช่าง เรียกวาว์ลแตก ถ้าทนทู่ซี้ใช้ต่อไป มันจะแตกบริสุทธิ์แล้วไม่เย็นเลยกลายเป็นอาการที่หนึ่ง สาเหตุที่วาว์ลมันแตกนี้โดยมากมาจากความชื้น ไม่ว่าท่านจะแว็คคั่มไล่ความชื้นในระบบแอร์และมีดรายเออร์ดักไว้แล้ว แต่ระบบแอร์มันมากด้วยข้อต่อครับ โดยเฉพาะทางด้านความดันต่ำ เวลาคอมเพรสเซอร์ดูดไอน้ำยามาอัด ถ้าข้อต่อในด้านความดันต่ำรั่ว มันจะดูดอากาศภายนอกให้ซึมเข้ามาในระบบ พอดรายเออร์ดูด ความชื้นจนเสื่อมสภาพ ความชื้นก็จะเพ่นพ่านในระบบ และไปกลายเป็นน้ำแข็งอุดตันที่เอ็กซแพนชั่นวาว์ลหรือคอล์ยเย็น เมื่อไปตันที่เอ็กซ์แพนชั่นวาว์ลมันจะขยายตัวตามประสาน้ำแข็ง ดันช่องเล็กๆของวาว์ลให้ขยายถ่างโตขึ้น ช่างเรียกว่าแตกครับ ลองนึกถึงรูที่กระป๋องสีเสปร์ย เวลาท่านฉีดพ่นมัน ถ้าสีมาอุดตันก็จะทำให้พ่นไม่ออก ถ้าท่านไปทะลวงรูให้มันบานมันก็จะไม่พุ่ง แต่จะทะลักหยดแหมะๆออกมา วาว์ลแอร์ก็เหมือนกัน เมื่อมันแตกแล้วก็เสียครับต้องเปลี่ยน และอาการนี้ช่างมักต้มท่านว่าคอมเพรสเซอร์พัง ระวังให้ดีนะครับ เปลี่ยนวาว์ล+ดรายเออร์+แว็คคั่ม+เติมน้ำยา ไม่ควรจะเกินพันห้า เปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ ห้าพันขึ้นนะครับ ถ้าวาว์ลแตกก็เอาอันใหม่ใส่เข้าไป เปลี่ยนดรายเออร์ แว็คคั่มระบบ (ทำให้ในระบบแอร์เป็นสูญญากาศ) และเติมน้ำยาใหม่ แอร์ก็จะกลับเย็นขึ้นมาได้ครับ อาการสัพเพเหระยังมีอีก เช่นคลัชแอร์เสีย มันไม่ตัดไม่ต่อคอมเพรสเซอร์ อันนี้สังเกตุง่าย เสียงป๊อกแป็กเวลาคอมมันตัดต่อจะหายไป มอง คอมเพรสเซอร์ก็รู้ เพราะถ้ามันหมุนด้านหน้าคลัชจะหมุน ถ้าคลัชไม่ต่อด้านหน้าจะหยุดนิ่งๆ เรื่องคลัชเสียนี้ก่อนอื่นดูรีเลย์คลัชก่อนครับ บางทีคลัชดีรีเลย์เสียก็มี ไม่ต่อไฟไปให้ รีเลย์คลัชก็อยู่แถวๆตัวรีซีฟเวอร์ดรายเออร์ครับ ในฝากระโปรงโดยมากด้านคนนั่ง อาการสายพานแอร์หย่อนลื่น อันนี้มีมากเหมือนกัน สายพานมันยืดหย่อนคอมเพรสเซอร์ก็หมุนไม่เต็มที่มีลื่นไถล มันหย่อนก็ทำให้มันตึงซะ ถ้าร่องสายพานเปื้อนน้ำมันจาระบีก็ทำความสะอาดซะ สายพานเก่าแตกก็เปลี่ยนซะ อาการลมไม่แรง อันนี้เป็นในรถที่คอล์ยเย็น ลมพัดออกมาไม่แรง อย่าพึ่งไปนึกว่ามันตันอย่างเดียว มีอาการตลกๆอีกอย่างหนึ่ง คือน้ำท่วมในคอล์ยเย็น เนื่องมาจากท่อระบายน้ำตัน ปกติท่านจอดรถจะเห็นน้ำแอร์หยดออกมา นั่นมันมาจากคอล์เย็นครับ มันควบแน่นน้ำในอากาศไว้ในตัว มีท่อระบายออกทิ้ง บางทีฝุ่นผงไปอุดตันท่อนี้ น้ำก็ไปท่วมอยู่ในคอล์ยเย็น ลมมันหมุนวน ในคอล์ยเย็นไม่ได้ลมอั้น ผลคือลมไม่แรงทำให้นึกว่ามันตันซะแล้ว ดังนั้นหมั่นสังเกตุน้ำแอร์ที่หยดออกมาบ้าง ถ้าหายไปก็ ทะลวงท่อมันซะบ้างครับ ....... ..ถอดตัวอย่างไปหาซื้อที่คลองถมตามร้านขายแอร์รถใหม่ๆตัวละอย่างต่ำๆ100บาทเองแล้วแต่รุ่น...[/QUOTE]
Log in with Facebook
Log in with Twitter
Log in with Google
Your name or email address:
Do you already have an account?
No, create an account now.
Yes, my password is:
Forgot your password?
Stay logged in
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
Community Car Clubs
>
Euro Car Clubs
>
Rover Club
>
ไดเออร์ ตัน
>
X
Home
Home
Quick Links
Recent Posts
Recent Activity
Authors
Forums
Forums
Quick Links
Search Forums
Recent Posts
Classifieds
Classifieds
Quick Links
Search Classifieds
Recent Activity
Top Rated Traders
Media
Media
Quick Links
Search Media
New Media
Members
Members
Quick Links
Notable Members
Registered Members
Current Visitors
Recent Activity
New Profile Posts
Menu
Search titles only
Posted by Member:
Separate names with a comma.
Newer Than:
Search this thread only
Search this forum only
Display results as threads
Useful Searches
Recent Posts
More...