• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;KengRacing, post: 1706828, member: 2&quot;]เข้ามาดูหลายรอบละ จะดูว่าแต่ละคนจะตอบยังไง</p><p><br /></p><p>เราจะตอบให้ตรงความต้องการที่สุดละกัน เพราะดูจากรูปส่วนตัวน่าจะใช้รถขับเคลื่อนล้อหลังวิ่งแข่ง</p><p>ขับหน้ากับขับหลังหรือขับสี่ เซ็ทช่วงล่างไม่เหมือนกัน</p><p><br /></p><p>ความแข็งอ่อนของช็อคอัพ =&gt; นี้คือคอมเพรส หรือช่วงยุบตัว ปรับให้แข็งหรือหนึดที่สุดแต่เท่ากับน้อยกว่าค่าค่ารีบาวน์และไม่มากกว่าค่ารีบาวน์ ตั้งค่าเท่าไรไม่รู้ ต้องลองวิ่งดู</p><p>ค่าการรีบาวของช็อคอัพ =&gt; นี้คือค่ายืดตัว ปรับให้หนึดสุด แล้วลองวิ่งดู ถ้าหน้า หรือหลัง สไลด์ออกไปมาก ก็ลดๆ ลงมา ลดค่ายุบตัวให้นิ่มตามลงมาด้วย</p><p>ความแข็งอ่อนของสปริง =&gt; จากน้ำหนักรถที่ให้มา หน้า 14-16k หลัง 6-8k ประมาณนี้ละกัน เพราะน้ำหนักของรถคุณไม่รู้ว่าเฉลี่ยหน้า-หลังเท่าไร แต่ความแข็งที่ให้ไป ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็พอจะเริ่มต้นได้</p><p>มุม camber หน้า-หลัง =&gt; หน้า -3 ถึง -5 หลัง -3 ถ้าเป็น bmw ก็ชั่งมัน จะแบะไปเท่าไรก็เรื่องของมัน ปรับไม่ได้ แต่มันก็มีวิธีทำ ลองหาในเน็ต</p><p>มุม Toe in - toe out หน้า/หลัง =&gt; ค่าเริ่มต้น 0 และ 0 ถ้าวิ่งได้ดีก็เท่านี้แหละ ขึ้นอยู่บูชต่างๆ ว่าเป็นบอลหรือยาง ถ้ายางอาจจะต้องชดเชยนิดหน่อย</p><p><br /></p><p>ตั้งค่าตามที่แนะนำไป แล้วลองวิ่งดู แล้วก็ปรับแต่งตามความเหมาะสมของตัวเอง เพราะรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน</p><p>รถที่เราไปสอนแข่งรถแต่ละคันก็ปรับเหมือนๆ กัน แต่ตอนวิ่งจริง ไม่เหมือนกัน ตัวแปรของสภาพรถมันเยอะ โครงรถที่อ่อนและแข็งก็แตกต่างกันมาก โครงรถที่อ่อนคือรถที่ไม่มีโรลเคสหรือโรลบาร์เฮงซวยที่ใช้น็อตยึดกับตัวรถ โครงรถที่แข็งคือรถที่ทำโรลเคสเชื่อมติดกับตัวรถ การวิ่งเข้าโค้งจะดีกว่ามากๆ[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X