• 
  
  ติดต่อลงโฆษณา [email protected] หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่

Name:

Verification:

Loading...

Message:

<p>[QUOTE=&quot;Excited Rider, post: 1785324, member: 111692&quot;]<span style="color: #ffff00"><font size="3">ขอตอบเรื่องน้ำมันเครื่องละกันนะครับ </font></span><font size="5"><u><span style="color: #ff0000">เอาแบบความรู้สึกล้วนๆนะครับ</span></u></font><span style="color: #ffff00"><font size="3"></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"></font></span><span style="color: #ff0000"><font size="3">ประการแรก</font></span><span style="color: #ffff00"><font size="3"> น้ำมันเครื่อง เหนียวไม่เหนียว ดูที่เลขตัวหลังครับ เช่น 20w-50 จะเหนียวกว่า 10W-40 บ้านเราเมืองร้อน ดูเลขตัวหลังเป็นหลักครับ เลขยิ่งมาก ฟิลม์น้ำมันยิ่งหนา ยิ่งเหนียว ปกป้องการศึกหรอยิ่งดีครับ เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานมานานแล้ว ประมาณสักหลัง150000 โลเป็นต้นไป ถ้าเอาไปใส่เครื่องรถใหม่ๆที่ยังฟิตๆ ก็อาจทำให้กินแรงเครื่อง สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงครับ ในทางตรงกันข้าม ตัวหลังเลขยิ่งน้อย ฟิลม์ยิ่งบาง ยิ่งลื่น เหมาะแก่การใช้งานกับเครื่องที่ยังวิ่งมาไม่เยอะ เครื่องยังสึกหรอไม่มากที ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ก็เลือกให้เหมาะกับเครื่องของเราครับ หาข้อมูล ศึกษาเยอะๆ แล้วเลือกที่เหมาะที่สุดครับ ผมจะยกตัวอย่างของผมให้ฟังนะครับ กับเจ้าบ๊11เหลี่ยมน้อยของผม ตอนได้รถมาใหม่ๆ บ้าของดี ผมก็เลยใช้เจ้าสังเคราะห์แท้ 0w-30 กระป๋องทอง ยี่ห้อเดียวกับที่พี่ วิน ดีเซล ใช้ในหนังเรื่องฟาส4 ตอนที่พี่แกทำรถ&nbsp; โหย...แม่เจ้า ลื่นสัดๆ แต่ขับแค่100 หรือลองตีนหนักนิดนึง ลองลากรอบสัก5000รอบ(สำหรับเครื่องเดิมสนิท) ก็เป็นรถขายไก่ย่างแล้ว ทีนี้ลองขยับมาเป็นกึ่ง เบอ10w-40ยี่ห้อM อันนี้ก็ถือว่าดี แต่ตอนอัดแช่สัก140 ยาวๆนี่ oil press ตก ควันเริ่มมา ดังนั้นผมเลยมาจบที่ตัวธรรมดา 20w-50 ของยี่ห้อเดียวกัน ตอนนี้เหรอ อัดได้ชิวๆ โดยไม่ต้องเป็นรถขายไก่ย่างแล้วครับ อิอิ ยกเป็นตัวอย่างให้เห็นน่ะครับ อันนี้ต้องลอง หลายๆตัว หลายๆยี่ห้อดู อาจเปลืองตังหน่อย แต่จบ ได้น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของเรา</font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"></font></span><span style="color: #ff0000"><font size="3">ประการที่สอง</font></span><span style="color: #ffff00"><font size="3"> เรื่องของเกรดหรือคุณภาพน้ำมันเครื่อง ไล่จากธรรมดาไปยังดีสุดได้ดังนี้ครับ ธรรมดา กึ่งสังเคราะ สังเคราะห์แท้ๆ ครับ การเปรียบเทียบต้องเปรียบเทียบพวกเดียวกัยครับ เช่นกึ่งยี่ห้อM กับกึ่งยี่ห้อC แล้วค่อยมาดูเลขท้ายกัน อะไรทำนองนี้ครับ ถ้าจะเทียบธรรมดากับกึ่ง มันก็เทียบได้ครับ แต่มันไม่สมเหตุสมผลนิดหน่อย เหมือนเอาเด็ก18ไปต่อยกับด็ก10ขวบ อะไรทำนองนี้ครับ</font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"></font></span><span style="color: #ff0000"><font size="3">ประการที่สาม</font></span><span style="color: #ffff00"><font size="3"> เรื่องของความกว้างของค่าการใช้งาน ควรจะเลือกน้ำมันเครื่องที่มีช่วงกว้าง จะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าน้ำมันเครื่องที่ช่วงแคบ คือหมายถึงว่า ความห่างระหว่างเลขหน้า กับเลขหลัง ลองๆเทียบๆไล่ๆกันดูนะครับ</font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"><br /></font></span></p><p><span style="color: #ffff00"><font size="3"></font></span><span style="color: #ff0000"><font size="3">**สุดท้าย อ่านของผม ฟังของผม แล้วก็กองไว้ตรงนี้แหละครับ หาข้อมูลเยอะๆ อย่าฟังความข้างเดียว อิอิ บางทีบางที่เขาอาจจะบอกไม่เหมือนกับที่ผมบอกก็ได้ ฮ่า ๆ&nbsp; ที่ตอบมานี้ก็ได้บอกไปแล้วนะครับว่า ความรู้สึกล้วนๆ อิอิ โชคดีครับ</font></span>[/QUOTE]</p><p><br /></p>

• Log in with Facebook
• Log in with Twitter
• Log in with Google

Your name or email address:

Do you already have an account?

• No, create an account now.
• Yes, my password is:
• Forgot your password?

Stay logged in

• X