Log in or Sign up
ติดต่อลงโฆษณา
[email protected]
หรือโทร. 081-811-1138 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
ทำไมต้องใส่ "ค้ำช็อค"?
>
Reply to Thread
Name:
Verification:
Please enable JavaScript to continue.
Loading...
Message:
<p>[QUOTE="RacingWeb, post: 2030728, member: 9984"]<p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/8GDGy5f.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><b>ทำไมต้องใส่ "ค้ำช็อค"?</b></p> <p style="text-align: center"><b><br /></b></p> <p style="text-align: center"><b>What is the purpose of Strut Bar?</b></p><p><br /></p><p>ค้ำช็อค เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเสริมประสิทธิภาพให้กับช่วงล่าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการติดตั้งมาให้จากโรงงาน แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อค้ำช็อคเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่างก็ต้องหาซื้อจาก Aftermarket ซึ่งมีมากมายหลายยี่ห้อ ค้ำช็อคจะแบ่งเป็น 2 ประเภทตามตำแหน่งการติดตั้ง นั่นก็คือ ค้ำช็อคหน้าและค้ำช็อคหลัง ซึ่งมีหลักการทำงานและวัตถุประสงค์ที่เหมือนกัน</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/Lhh42Ie.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจกับหลักการทำงานของค้ำช็อค ผมอยากจะให้ท่านผู้อ่านได้ทำความเข้าใจกับศัพท์เชิงเทคนิคคำหนึ่งที่ใช้ถูกใช้กับงานด้านการออกแบบตัวถังรถยนต์ นั่นก็คือคำว่า "ริจิดิตี" (Rigidity) แปลเป็นภาษาไทยก็คือ "ความแข็งเกร็ง" ความแข็งเกร็งเป็นคุณสมบัติที่รถสมรรถนะสูงต้องมี ซึ่งความแข็งเกร็งนี้จะส่งผลโดยตรงกับสมรรถนะของการขับขี่ หรือที่เรียกว่า "แฮนเดิลลิ่ง" (Handling) ยิ่งตัวถังรถมีความแข็งเกร็งมาก ก็ยิ่งมีแฮนเดิลลิ่งที่ดี (แฮนเดิลลิ่งที่ดีหมายถึงการที่รถสามารถเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วทันใจและพร้อมกันนั้นก็สามารถตอบสนองต่อพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ)</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/CaAAhsQ.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่ายังมีผู้อ่านหลายๆท่านที่ยังคงสับสนระหว่าง "ความแข็งเกร็ง" (Rigidity) กับ "ความแข็งแรง" (Strength) ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็ให้ลองเปรียบเทียบระหว่าง "ซีเมนต์" และ "เหล็ก" เป็นที่ทราบกับอยู่แล้วว่า วัสดุทั้งสองชนิดนี้มีความแข็งแรงทางโครงสร้างโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีก เราจะพบว่า "ซีเมนต์" มีการ "ให้ตัว" ที่น้อยกว่า "เหล็ก" ดังนั้น "ซีเมนต์" จึงเป็นตัวอย่างของวัสดุที่มีแข็งเกร็ง ส่วนเหล็กนั้น สามารถให้ตัวได้มากกว่า (งอได้และเสียรูปได้) เพราะฉะนั้น เหล็กจึงเป็นตัวอย่างของวัสดุที่มีความแข็งแรง ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า วัสดุที่มี "ความแข็งเกร็ง" ก็คือ วัตถุที่มีการให้ตัวที่น้อยมากๆ หรือไม่มีการเสียรูปเลยนั่นเอง</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/ZAiBAil.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">การติดตั้งโรลบาร์ (หรือ โรลเคจ) นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับห้องโดยสารแล้ว ยังช่วยเพิ่ม "ความแข็งเกร็ง" ให้กับตัวรถอีกด้วย</p><p><br /></p><p>ถ้าหากใครชอบดูการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบก็คงจะชินตากับรถแข่งที่มีการติดตั้งโรลบาร์ทั่วทั้งห้องโดยสาร หลายคนเข้าใจว่า การติดตั้งโรลบาร์มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดภายในห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชน รวมไปถึงลดอันตรายที่จะเกิดกับตัวนักแข่ง ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการติดตั้งโรลบาร์ แต่ความจริงแล้ววัตถุประสงค์หลักๆ ของการติดตั้งโรลบาร์ก็คือเป็นการเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถนั่นเอง เนื่องจากบอดี้รถเดิมๆ จากโรงงานนั้น จะมีการให้ตัวได้ โดยเฉพาะเมื่อเราเข้าโค้งแรงๆ หรือตอนที่เราปีนเอเป็กซ์ พูดได้ว่ารถเดิมๆ จากโรงงานยังมีความแข็งเกร็งที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีการติดตั้งโรลบาร์เพื่อความแข็งเกร็งให้กับตัวรถ นอกจากการติดตั้งโรลบาร์แล้ว การสปอตตัวถังก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถ และแน่นอนว่า การติดตั้งค้ำช็อคก็ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถด้วยเช่นกัน</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/r4tFV0V.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ค้ำช็อคก็ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นริจิดิตีให้กับบอดี้ของรถ ค้ำช็อคมีหน้าที่เพิ่มความแข็งเกร็งให้กับบริเวณซุ้มช็อคเป็นหลัก ซุ้มช็อคถือเป็นบริเวณที่ให้ตัวได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆ ของตัวรถ เนื่องจากซุ้มช็อคเป็นบริเวณที่ต้องรับแรงจากล้อโดยตรง รถยนต์บางค่ายได้มีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับบริเวณซุ้มช็อคด้วยการเพิ่มความหนาของตัวถังหรือเพิ่มจุดสปอต ทำให้บริเวณดังกล่าวมีความแข็งเกร็งมากขึ้น แต่ก็สามารถรองรับได้เพียงการใช้งานบนถนนเท่านั้น เรียกได้ว่ายังไม่มีความแข็งเกร็งเพียงพอที่จะนำไปแข่งขันได้ ดังนั้น ค้ำช็อคจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว</p><p><br /></p><p>หลักการทำงานของค้ำช็อคก็คือ "การถ่ายแรง" จากซุ้มช็อคด้านหนึ่งไปยังซุ้มช็อคอีกด้านหนึ่ง ซึ่งการถ่ายแรงในลักษณะนี้จะสามารถลดแรงที่กระทำกับซุ้มช็อคโดยตรง เมื่อมีแรงกระทำลดลง การให้ตัวของบอดี้ก็จะลดลงไปโดยปริยาย บอดี้รถจึงมีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นนั่นเอง หลักการถ่ายแรงนี้สามารถใช้ได้ทั้งค้ำช็อคหน้าและค้ำช็อคหลัง ซึ่งความสามารถในการถ่ายแรงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาทำเป็นค้ำช็อค วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำต้องไม่มีการเสียรูปหรือเสียรูปได้น้อยที่สุด หรือพูดง่ายๆ ก็คือต้องแข็งมากๆ จนไม่สามารถงอได้ เพราะถ้าหากว่าค้ำช็อคมีการงอเกิดขึ้นแล้ว ประสิทธิภาพการถ่ายแรงก็จะลดลง และจะกลายเป็นว่า ใส่ค้ำช็อคเข้าไปแล้ว บอดี้รถกลับไม่ได้มีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้น วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำช็อค ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรืออะลูมิเนียมก็แล้วแต่ ต้องสามารถทนต่อแรงที่กระทำโดยไม่มีการเสียรูป</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/XaVQdPv.gif" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /> <img src="https://i.imgur.com/uJAkLig.gif" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">รูปจำลองการถ่ายแรง - "ก่อน" ใส่ค้ำช็อคอัพ และ รูปจำลองการถ่ายแรง - "หลัง" ใส่ค้ำช็อคอัพ</p><p><br /></p><p>หลักการถ่ายแรงนี้สามารถใช้ได้ทั้งค้ำช็อคอัพหน้าและค้ำช็อคอัพหลัง ซึ่งความสามารถในการถ่ายแรงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาทำเป็นค้ำช็อค โดยวัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำต้องไม่มีการเสียรูปหรือเสียรูปได้น้อยที่สุด หรือพูดง่ายๆก็คือต้องแข็งมากๆจนไม่สามารถงอได้นั่นเองครับ เพราะถ้าหากว่าค้ำช็อคมีการงอเกิดขึ้นแล้ว ประสิทธิภาพการถ่ายแรงก็จะลดลง และจะกลายเป็นว่า ใส่ค้ำช็อคเข้าไปแล้ว บอดี้รถกลับไม่ได้มีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้น วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำช็อค ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรืออะลูมิเนียมก็แล้วแต่ ต้องสามารถทนต่อแรงที่กระทำโดยไม่มีการเสียรูปแต่อย่างใด</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/241dsWA.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p><p><br /></p><p>ความจริงแล้ว ค้ำช็อค-อัพ ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับระบบช่วงล่างประเภท "แม็คเฟอร์สัน สตรัท" (McPherson Strut) เป็นหลัก เนื่องจากช่วงล่างประเภทนี้มีชิ้นส่วนรับแรงเพียงไม่กี่ชิ้น ดังนั้นแรงที่กระทำจากล้อจะส่งผ่านไปยังบอดี้รถโดยตรงเลยครับ ส่งผลบอดี้บริเวณซุ้มช็อคมีการให้ตัวและเสียรูปได้ง่ายกว่า ซึ่งแตกต่างจากช่วงล่างแบบปีกนกคู่หรือที่เรียกว่า "ดับเบิลวิชโบน" (Double Wishbone) ซึ่งมีชิ้นส่วนในการรับแรงที่มากกว่า ดังนั้นแรงที่กระทำจากล้อจะถูกชิ้นส่วนดังกล่าวดูดซับไปส่วนหนึ่ง ทำให้แรงที่กระทำกับบอดี้รถมีค่าน้อยกว่า บอดี้รถจึงมีการให้ตัวที่น้อยกว่า เพราะฉะนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><b>"ค้ำช็อคหน้าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ต่อเมื่อถูกติดตั้งบนรถที่ใช้ช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท"</b></p><p><br /></p><p>แต่อย่างไรก็ดี ยังมีรถยนต์บางรุ่นที่ถึงแม้จะใช้ช่วงล่างแบบปีกนก แต่ก็ยังมีการติดตั้งค้ำโช้คหน้ามาให้ตั้งแต่โรงงานเลย ยกตัวอย่างเช่น "Honda IntegraType R (DC2)" เป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว่ารหัส "Type R" ของฮอนด้านั้นก็หมายถึงรถสมรรถนะสูงที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถโปรดัคชั่นคาร์โดยที่เน้นการซิ่งแบบเซอร์กิตเป็นหลัก แน่นอนว่าการรถซิ่งเซอร์กิตต้องมีความแข็งเกร็งมากกว่ารถธรรมดาอยู่แล้ว ฮอนด้าจึงได้ติดตั้งค้ำโช้คหน้าให้กับ Integra เพื่อการนี้โดยเฉพาะ</p><p><br /></p><p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/518nV3R.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center"><br /></p> <p style="text-align: center"><img src="https://i.imgur.com/6IuKzIV.jpg" class="bbCodeImage wysiwygImage" alt="" unselectable="on" /></p> <p style="text-align: center">Honda Integra DC2</p><p><br /></p><p>ถ้าพูดถึงวงการแต่งรถบ้านเราไทยแลนด์แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่กระแสเหล็กค้ำกำลังฮิตเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นค้ำช็อคหรือค้ำตัวถัง แต่ที่ฮอตฮิตที่สุดเนี่ยคงจะหนีไม่พ้นค้ำกากบาท หรือที่เรียกกันว่า "เอ็กซ์บาร์" หรือบางคนก็เรียก "ครอสบาร์" โดยเฉพาะในกลุ่มรถแฮชแบคหรือรถ 5 ประตู เรียกได้ว่าติดเอ็กซ์บาร์กันแทบจะทุกคัน จนผมนึกว่ามันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ตั้งแต่โรงงานเลยทีเดียว พอใส่เอ็กซ์บาร์เข้าไปแล้วก็ดูเทห์ ดูเป็นตัวซิ่งขึ้นมาทันที แต่คำถามก็คือว่า ความจริงแล้วเอ็กซ์บาร์มันมีไว้ทำอะไรกันแน่? วัตถุประสงค์ของมันจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่? มาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันในบทความครั้งต่อไป</p><p><br /></p><p>ที่มา: <a href="http://johsautolife.com/" target="_blank" class="externalLink ProxyLink" data-proxy-href="http://johsautolife.com/" rel="nofollow">http://johsautolife.com/</a>[/QUOTE]</p><p><br /></p>
[QUOTE="RacingWeb, post: 2030728, member: 9984"][CENTER][IMG]https://i.imgur.com/8GDGy5f.jpg[/IMG] [B]ทำไมต้องใส่ "ค้ำช็อค"? What is the purpose of Strut Bar?[/B][/CENTER] ค้ำช็อค เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเสริมประสิทธิภาพให้กับช่วงล่าง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการติดตั้งมาให้จากโรงงาน แต่สำหรับคนที่ต้องการซื้อค้ำช็อคเพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่างก็ต้องหาซื้อจาก Aftermarket ซึ่งมีมากมายหลายยี่ห้อ ค้ำช็อคจะแบ่งเป็น 2 ประเภทตามตำแหน่งการติดตั้ง นั่นก็คือ ค้ำช็อคหน้าและค้ำช็อคหลัง ซึ่งมีหลักการทำงานและวัตถุประสงค์ที่เหมือนกัน [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/Lhh42Ie.jpg[/IMG][/CENTER] ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจกับหลักการทำงานของค้ำช็อค ผมอยากจะให้ท่านผู้อ่านได้ทำความเข้าใจกับศัพท์เชิงเทคนิคคำหนึ่งที่ใช้ถูกใช้กับงานด้านการออกแบบตัวถังรถยนต์ นั่นก็คือคำว่า "ริจิดิตี" (Rigidity) แปลเป็นภาษาไทยก็คือ "ความแข็งเกร็ง" ความแข็งเกร็งเป็นคุณสมบัติที่รถสมรรถนะสูงต้องมี ซึ่งความแข็งเกร็งนี้จะส่งผลโดยตรงกับสมรรถนะของการขับขี่ หรือที่เรียกว่า "แฮนเดิลลิ่ง" (Handling) ยิ่งตัวถังรถมีความแข็งเกร็งมาก ก็ยิ่งมีแฮนเดิลลิ่งที่ดี (แฮนเดิลลิ่งที่ดีหมายถึงการที่รถสามารถเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วทันใจและพร้อมกันนั้นก็สามารถตอบสนองต่อพวงมาลัยได้อย่างแม่นยำ) [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/CaAAhsQ.jpg[/IMG][/CENTER] อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่ายังมีผู้อ่านหลายๆท่านที่ยังคงสับสนระหว่าง "ความแข็งเกร็ง" (Rigidity) กับ "ความแข็งแรง" (Strength) ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็ให้ลองเปรียบเทียบระหว่าง "ซีเมนต์" และ "เหล็ก" เป็นที่ทราบกับอยู่แล้วว่า วัสดุทั้งสองชนิดนี้มีความแข็งแรงทางโครงสร้างโดยพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ถ้าวิเคราะห์ให้ลึกลงไปอีก เราจะพบว่า "ซีเมนต์" มีการ "ให้ตัว" ที่น้อยกว่า "เหล็ก" ดังนั้น "ซีเมนต์" จึงเป็นตัวอย่างของวัสดุที่มีแข็งเกร็ง ส่วนเหล็กนั้น สามารถให้ตัวได้มากกว่า (งอได้และเสียรูปได้) เพราะฉะนั้น เหล็กจึงเป็นตัวอย่างของวัสดุที่มีความแข็งแรง ดังนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า วัสดุที่มี "ความแข็งเกร็ง" ก็คือ วัตถุที่มีการให้ตัวที่น้อยมากๆ หรือไม่มีการเสียรูปเลยนั่นเอง [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/ZAiBAil.jpg[/IMG] การติดตั้งโรลบาร์ (หรือ โรลเคจ) นอกจากจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับห้องโดยสารแล้ว ยังช่วยเพิ่ม "ความแข็งเกร็ง" ให้กับตัวรถอีกด้วย[/CENTER] ถ้าหากใครชอบดูการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบก็คงจะชินตากับรถแข่งที่มีการติดตั้งโรลบาร์ทั่วทั้งห้องโดยสาร หลายคนเข้าใจว่า การติดตั้งโรลบาร์มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดภายในห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชน รวมไปถึงลดอันตรายที่จะเกิดกับตัวนักแข่ง ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการติดตั้งโรลบาร์ แต่ความจริงแล้ววัตถุประสงค์หลักๆ ของการติดตั้งโรลบาร์ก็คือเป็นการเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถนั่นเอง เนื่องจากบอดี้รถเดิมๆ จากโรงงานนั้น จะมีการให้ตัวได้ โดยเฉพาะเมื่อเราเข้าโค้งแรงๆ หรือตอนที่เราปีนเอเป็กซ์ พูดได้ว่ารถเดิมๆ จากโรงงานยังมีความแข็งเกร็งที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงต้องมีการติดตั้งโรลบาร์เพื่อความแข็งเกร็งให้กับตัวรถ นอกจากการติดตั้งโรลบาร์แล้ว การสปอตตัวถังก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถ และแน่นอนว่า การติดตั้งค้ำช็อคก็ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความแข็งเกร็งให้กับตัวรถด้วยเช่นกัน [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/r4tFV0V.jpg[/IMG][/CENTER] อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ค้ำช็อคก็ถือเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความเป็นริจิดิตีให้กับบอดี้ของรถ ค้ำช็อคมีหน้าที่เพิ่มความแข็งเกร็งให้กับบริเวณซุ้มช็อคเป็นหลัก ซุ้มช็อคถือเป็นบริเวณที่ให้ตัวได้ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับบริเวณอื่นๆ ของตัวรถ เนื่องจากซุ้มช็อคเป็นบริเวณที่ต้องรับแรงจากล้อโดยตรง รถยนต์บางค่ายได้มีการเพิ่มความแข็งแรงให้กับบริเวณซุ้มช็อคด้วยการเพิ่มความหนาของตัวถังหรือเพิ่มจุดสปอต ทำให้บริเวณดังกล่าวมีความแข็งเกร็งมากขึ้น แต่ก็สามารถรองรับได้เพียงการใช้งานบนถนนเท่านั้น เรียกได้ว่ายังไม่มีความแข็งเกร็งเพียงพอที่จะนำไปแข่งขันได้ ดังนั้น ค้ำช็อคจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว หลักการทำงานของค้ำช็อคก็คือ "การถ่ายแรง" จากซุ้มช็อคด้านหนึ่งไปยังซุ้มช็อคอีกด้านหนึ่ง ซึ่งการถ่ายแรงในลักษณะนี้จะสามารถลดแรงที่กระทำกับซุ้มช็อคโดยตรง เมื่อมีแรงกระทำลดลง การให้ตัวของบอดี้ก็จะลดลงไปโดยปริยาย บอดี้รถจึงมีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นนั่นเอง หลักการถ่ายแรงนี้สามารถใช้ได้ทั้งค้ำช็อคหน้าและค้ำช็อคหลัง ซึ่งความสามารถในการถ่ายแรงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาทำเป็นค้ำช็อค วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำต้องไม่มีการเสียรูปหรือเสียรูปได้น้อยที่สุด หรือพูดง่ายๆ ก็คือต้องแข็งมากๆ จนไม่สามารถงอได้ เพราะถ้าหากว่าค้ำช็อคมีการงอเกิดขึ้นแล้ว ประสิทธิภาพการถ่ายแรงก็จะลดลง และจะกลายเป็นว่า ใส่ค้ำช็อคเข้าไปแล้ว บอดี้รถกลับไม่ได้มีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้น วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำช็อค ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรืออะลูมิเนียมก็แล้วแต่ ต้องสามารถทนต่อแรงที่กระทำโดยไม่มีการเสียรูป [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/XaVQdPv.gif[/IMG] [IMG]https://i.imgur.com/uJAkLig.gif[/IMG] รูปจำลองการถ่ายแรง - "ก่อน" ใส่ค้ำช็อคอัพ และ รูปจำลองการถ่ายแรง - "หลัง" ใส่ค้ำช็อคอัพ[/CENTER] หลักการถ่ายแรงนี้สามารถใช้ได้ทั้งค้ำช็อคอัพหน้าและค้ำช็อคอัพหลัง ซึ่งความสามารถในการถ่ายแรงนี้จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวัสดุที่นำมาทำเป็นค้ำช็อค โดยวัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำต้องไม่มีการเสียรูปหรือเสียรูปได้น้อยที่สุด หรือพูดง่ายๆก็คือต้องแข็งมากๆจนไม่สามารถงอได้นั่นเองครับ เพราะถ้าหากว่าค้ำช็อคมีการงอเกิดขึ้นแล้ว ประสิทธิภาพการถ่ายแรงก็จะลดลง และจะกลายเป็นว่า ใส่ค้ำช็อคเข้าไปแล้ว บอดี้รถกลับไม่ได้มีความแข็งเกร็งเพิ่มขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้น วัสดุที่จะนำมาทำเป็นค้ำช็อค ไม่ว่าจะเป็นเหล็กหรืออะลูมิเนียมก็แล้วแต่ ต้องสามารถทนต่อแรงที่กระทำโดยไม่มีการเสียรูปแต่อย่างใด [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/241dsWA.jpg[/IMG][/CENTER] ความจริงแล้ว ค้ำช็อค-อัพ ถูกพัฒนาเพื่อใช้สำหรับระบบช่วงล่างประเภท "แม็คเฟอร์สัน สตรัท" (McPherson Strut) เป็นหลัก เนื่องจากช่วงล่างประเภทนี้มีชิ้นส่วนรับแรงเพียงไม่กี่ชิ้น ดังนั้นแรงที่กระทำจากล้อจะส่งผ่านไปยังบอดี้รถโดยตรงเลยครับ ส่งผลบอดี้บริเวณซุ้มช็อคมีการให้ตัวและเสียรูปได้ง่ายกว่า ซึ่งแตกต่างจากช่วงล่างแบบปีกนกคู่หรือที่เรียกว่า "ดับเบิลวิชโบน" (Double Wishbone) ซึ่งมีชิ้นส่วนในการรับแรงที่มากกว่า ดังนั้นแรงที่กระทำจากล้อจะถูกชิ้นส่วนดังกล่าวดูดซับไปส่วนหนึ่ง ทำให้แรงที่กระทำกับบอดี้รถมีค่าน้อยกว่า บอดี้รถจึงมีการให้ตัวที่น้อยกว่า เพราะฉะนั้นเราสามารถสรุปได้ว่า [CENTER][B]"ค้ำช็อคหน้าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดก็ต่อเมื่อถูกติดตั้งบนรถที่ใช้ช่วงล่างแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท"[/B][/CENTER] แต่อย่างไรก็ดี ยังมีรถยนต์บางรุ่นที่ถึงแม้จะใช้ช่วงล่างแบบปีกนก แต่ก็ยังมีการติดตั้งค้ำโช้คหน้ามาให้ตั้งแต่โรงงานเลย ยกตัวอย่างเช่น "Honda IntegraType R (DC2)" เป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว่ารหัส "Type R" ของฮอนด้านั้นก็หมายถึงรถสมรรถนะสูงที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรถโปรดัคชั่นคาร์โดยที่เน้นการซิ่งแบบเซอร์กิตเป็นหลัก แน่นอนว่าการรถซิ่งเซอร์กิตต้องมีความแข็งเกร็งมากกว่ารถธรรมดาอยู่แล้ว ฮอนด้าจึงได้ติดตั้งค้ำโช้คหน้าให้กับ Integra เพื่อการนี้โดยเฉพาะ [CENTER][IMG]https://i.imgur.com/518nV3R.jpg[/IMG] [IMG]https://i.imgur.com/6IuKzIV.jpg[/IMG] Honda Integra DC2[/CENTER] ถ้าพูดถึงวงการแต่งรถบ้านเราไทยแลนด์แล้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่กระแสเหล็กค้ำกำลังฮิตเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นค้ำช็อคหรือค้ำตัวถัง แต่ที่ฮอตฮิตที่สุดเนี่ยคงจะหนีไม่พ้นค้ำกากบาท หรือที่เรียกกันว่า "เอ็กซ์บาร์" หรือบางคนก็เรียก "ครอสบาร์" โดยเฉพาะในกลุ่มรถแฮชแบคหรือรถ 5 ประตู เรียกได้ว่าติดเอ็กซ์บาร์กันแทบจะทุกคัน จนผมนึกว่ามันเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้ตั้งแต่โรงงานเลยทีเดียว พอใส่เอ็กซ์บาร์เข้าไปแล้วก็ดูเทห์ ดูเป็นตัวซิ่งขึ้นมาทันที แต่คำถามก็คือว่า ความจริงแล้วเอ็กซ์บาร์มันมีไว้ทำอะไรกันแน่? วัตถุประสงค์ของมันจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่? มาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันในบทความครั้งต่อไป ที่มา: [URL]http://johsautolife.com/[/URL][/QUOTE]
Log in with Facebook
Log in with Twitter
Log in with Google
Your name or email address:
Do you already have an account?
No, create an account now.
Yes, my password is:
Forgot your password?
Stay logged in
RacingWeb.NET | The Racing Cars Community on Web.
Forums
>
RacingWeb Community
>
Racing Forum (Cars Forum)
>
ทำไมต้องใส่ "ค้ำช็อค"?
>
X
Home
Home
Quick Links
Recent Posts
Recent Activity
Authors
Forums
Forums
Quick Links
Search Forums
Recent Posts
Classifieds
Classifieds
Quick Links
Search Classifieds
Recent Activity
Top Rated Traders
Media
Media
Quick Links
Search Media
New Media
Members
Members
Quick Links
Notable Members
Registered Members
Current Visitors
Recent Activity
New Profile Posts
Menu
Search titles only
Posted by Member:
Separate names with a comma.
Newer Than:
Search this thread only
Search this forum only
Display results as threads
Useful Searches
Recent Posts
More...